" สงกรานต์ " มาจากภาษาสันสฤกตว่า สํ-กรานต แปลว่าก้าวขี้น ย่างขึ้น หรือก้าวขึ้น การย้ายที่ เคลื่อนที่ คือพระอาทิตย์
ย่างขึ้น สู่ราศีใหม่ หมายถึงวันขึ้นปีใหม่ซึ่งตกอยู่ในวันที่ 13,14,15 เมษายนทุกปี แต่วันสงกรานต์นั้นคือ วันที่ 13 เมษายน
เรียกว่า วันมหาสงกรานต์ วันที่ 14เป็นวันเนา วันที่ 15 เป็นวันเถลิงศก
ความหมายของคำที่เกี่ยวข้องกับสงกรานต์ มีดังนี้.สงกรานต์ ที่แปลว่า "ก้าวขึ้น" "ย่างขึ้น" นั้นหมายถึง การที่ดวงอาทิตย์
ขึ้นสู่ราศีใหม่อันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกเดือน ที่เรียกว่าสงกรานต์เดือน แต่เมื่อครบ 12 เดือนแล้วย่างขึ้นราศีเมษอีก
จัดเป็นสงกรานต์ปี ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ทางสุริยคติ
มหาสงกรานต์ แปลว่า ก้าวขึ้น หรือย่างขึ้นครั้งใหญ่ หมายถึงสงกรานต์ปี คือปีใหม่อย่างเดียว กล่าวคือสงกรานต์หมายถึง
ได้ทั้งสงกรานต์เดือนและสงกรานต์ปีแต่ มหาสงกรานต์ หมายถึง สงกรานต์ปีอย่างเดียว
วันเนา แปลว่า "วันอยู่" คำว่า "เนา" แปลว่า "อยู่" หมายความว่าเป็นวันถัดจากวันมหาสงกรานต์มา 1 วัน วันมหาสงกรานต์
เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ย่างสู่ราศีตั้งต้นปีใหม่วันเนาเป็นวันที่ดวงอาทิตย์เข้าที่เข้าทางในวันราศีตั้งต้นใหม่เรียบร้อยแล้ว คือ
อยู่ประจำที่แล้ว
วันเถลิงศก แปลว่า "วันขึ้นศก" เป็นวันเปลี่ยนจุลศักราชใหม่ การที่เปลี่ยนวันขึ้นศกใหม่มาเป็นวันที่ 3 ถัดจากวันมหา-
สงกรานต์ ก็เพื่อให้หมดปัญหาว่าการย่างขึ้นสู่จุดเดิม สำหรับต้นปีนั้นเรียบร้อยดี ไม่มีปัญหาเพราะอาจมีปัญหาติดพันเกี่ยว
กับชั่วโมงนาที วินาที ยังไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ ที่จะเปลี่ยนศกถ้าเลื่อนวันเถลิงศก หรือวันขึ้นจุลศักราชใหม่มาเป็น วันที่ 3 ก็
หมายความว่า อย่างน้อยดวงอาทิตย์ได้ก้าวเข้าสู่ราศีใหม่ ไม่น้อยกว่า 1 องศา แล้วอาจจะย่างเข้าองศาที่ 2 หรือที่ 3 ก็ได้
วันสงกรานต์จะมี 3 วัน คือ เริ่มวันที่ 13 เมษายน ถึงวันที่ 15 เมษายนวันแรกคือวันที่ 13 เป็นวันมหาสงกราต์ วันที่
พระอาทิตย์ต้องขึ้นสู่ราศีเมษ วันที่ 14 เป็นวันเนา (พระอาทิตย์คงอยู่ที่ 0 องศา) วันที่ 15 เป็นวันเถลิงศกใหม่ และเริ่ม
จุลศักราช ในวันนี้ เมื่อก่อนจริงๆ มีถึง 4 วัน คือวันที่ 13 -16 เป็นวันเนาเสีย 2 วัน
วันสงกรานต์เป็นวันขึ้นปีใหม่ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย จนถึง พ.ศ.2483ทางราชการจึงได้เปลี่ยนไหม่ โดยกำหนดเอาวันที่
1 มกราคม เป็นวันขึ้นปีใหม่เพื่อให้เข้ากับ หลักสากลที่นานาประเทศนิยมปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการเปลี่ยนวันขึ้นปี-ใหม่ ก็ยังยึดถือว่า วันสงกรานต์มีความสำคัญ
บุญสงกรานต์ บุญเดือนห้า
มูลเหตุที่ทำ เพื่อขอให้มีความเป็นอยู่ร่มเย็นเป็นสุข จะปรารถนาสิ่งใดขอให้ได้สมหวัง เช่น ขอน้ำขอฝน ขอให้ตกต้องตามฤดูกาล และให้ข้าว น้ำ ปลา อุดมสมบูรณ์ และในเดือนนี้ถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวอีสาน โดยถือเอาวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 เป็นวันเริ่มต้นทำบุญ
มีเรื่องเล่าว่า ในสมัยที่พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงประทับอยู่ที่พระเชตวันมหาวิหาร อันเป็นอารามที่อนาถปิณฑิกมหาเศรษฐีสร้างถวาย วันหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศล บรมกษัตริย์ได้เสด็จไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนหนึ่ง
บุญสงกรานต์หรือตรุษสงกรานต์ของภาคอีสานกำหนดทำกันในเดือนห้า ปรกติมี 3 วัน โดยเริ่มแต่วันที่ 13 เมษายน-
ถึงวันที่ 15 เมษายนเหมือนกับภาคกลาง วันที่ 13 เมษายน เป็นวันต้น คือ วันมหาสงกรานต์ วันที่ 14 เมษายน คือวัน-
กลางเป็นวันเนา และวันที่ 15 เมษายน คือวันสุดท้าย เป็นวันเถลิงศก ชาวอีสานถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ พิธีสงกรานต์ในท้อง
ถิ่นหนึ่ง ๆ อาจมีพิธีทำแตกต่างกันไปในข้อปลีกย่อยแต่ที่ทำเหมือนกัน คือ การสรงน้ำพระพุทธรูป ที่สำหรับสรงน้ำใน
ท้องถิ่นหนึ่ง ๆ อาจมีพิธีทำแตกต่างกันไปในข้อปลีกย่อยแต่ที่ทำเหมือนกัน คือ การสรงน้ำพระพุทธรูป ที่สำหรับสรงน้ำ
พระพุทธรูปมักเป็นที่ใดที่หนึ่ง ที่เห็นว่าเหมาะสม ซึ่งตามปรกติมักใช้ศาลาการเปรียญ แต่บางวัดก็จัดสร้างหอสรงขึ้นแล้ว
อันเชิญพระพุทธรูปในประดิษฐานไว้ เพื่อทำการสรงในวันสงกรานต์ และในวันถัดจากวันสงกรานต์อีกด้วย
แสดงความคิดเห็น