ลักษณะภูมิประเทศ
ที่ตั้ง ขนาด และอาณาเขต
อำเภอพิบูลมังสาหาร เป็นอำเภอที่ขึ้นตรงต่อจังหวัดอุบลราชธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีพื้นที่ 720.73 ตารางกิโลเมตร หรือ 450,456.25 ไร่ มีพื้นที่มากเป็นอันดับ 7 ของจังหวัด
ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกตามทางหลวงหมายเลข 217 ห่างจากจังหวัดอุบลราชธานีประมาณ 45
กิโลเมตร
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติด อำเภอศรีเมืองใหม่
ทิศตะวันออก ติด อำเภอสิรินธร และอำเภอโขงเจียม
ทิศใต้ ติด อำเภอบุณฑริกและอำเภอเดชอุดม
ทิศตะวันตก ติด อำเภอสว่างวีระวงศ์และกิ่งอำเภอนาเยีย
ลักษณะภูมิประเทศ สภาพโดยทั่วไปเป็นที่ราบสูงและราบลุ่มสลับกัน สภาพพื้นที่ส่วนใหญ่จัดอยู่
ในลักษณะเป็นพื้นที่ลูกคลื่นลอนตื้น บริเวณที่ตั้งอำเภอเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำมูล โดยเฉพาะพื้นที่
ทางทิศเหนือและทางทิศใต้จะมีลักษณะเป็นที่ราบสูงและเป็นลูกคลื่นลาดเอียงลงสู่แม่น้ำมูล
แหล่งน้ำและลำน้ำสายสำคัญ
แหล่งน้ำที่สำคัญ เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ให้ประโยชน์แก่ท้องถิ่น ได้แก่ แม่น้ำมูล แม่น้ำลำโดมใหญ่
แม่น้ำห้วยกว้าง อ่างเก็บน้ำลำโดมน้อย
แม่น้ำมูล
ต้นน้ำจากเทือกเขาเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ไหลผ่านจังหวัดอีสานตอนใต้แนวตะวันตก สู่ตะวัน
ออก ถือได้ว่าเป็นแม่น้ำสายสำคัญของอำเภอพิบูลมังสาหารไหลผ่านตำบลโพธิ์ไทร ตำบลโพธิ์ศรี
ตำบลพิบูล ตำบลกุดชมภู ตำบลทรายมูล ไหลผ่านอำเภอสิรินธร และไหลลงแม่น้ำโขงที่อำเภอ
โขงเจียม
แม่น้ำลำโดมใหญ่
ต้นน้ำอยู่บริเวณเทือกเขาดงรักเขตท้องที่อำเภอน้ำยืน ไหลผ่านอำเภอเดชอุดม เข้าสู่อำเภอพิบูล
มังสาหาร โดยไหล่ผ่านตำบลนาโพธิ์ ตำบลไร่ใต้ ตำบลโพธิ์ไทร เป็นลำน้ำแบ่งเขตปกครองของ
อำเภอพิบูลมังสาหารกับกิ่งอำเภอนาเยียและกิ่งอำเภอสว่างวีระวงศ์ ไหลลงแม่น้ำมูลที่บ้านปากโดม
ตำบลโพธิ์ไทร
อ่างเก็บน้ำลำโดมน้อย
แหล่งน้ำที่เกิดจากการสร้างเขื่อนสิรินธรโดยกั้นลำน้ำลำโดมน้อย ซึ่งมีต้นน้ำที่เทือกเขาดงรักเขต
ท้องที่อำเภอบุณฑริก ไหลลงแม่น้ำที่หน้าเขื่อนปากมูลเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ สามารถจุน้ำได้
1,966 ล้านลูกบาศก์เมตร ใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 36 เมกกะวัตต์ บริการน้ำชลประทานแก่เกษตรกร
ได้ประมาณ 162,151 ไร่ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งสัตว์น้ำที่มีความสำคัญต่อประชาชนในท้องถิ่นเป็น
อย่างยิ่ง
ห้วยกว้าง
ต้นน้ำเกิดจากที่ราบสูงท้องที่อำเภอเดชอุดม ไหลผ่านตำบลหนองบัวฮี ตำบลดอนจิก ตำบลกุดชมภู
ไหลลงแม่น้ำมูลที่บ้านหนองเป็น ตำบลคันไร่ อำเภอสิรินธรเป็นแม่น้ำที่ค่อนข้างสั้นแต่ก็ให้ประโยชน์
แก่พื้นที่ที่ไหลผ่าน นอกจากนี้ห้วยกว้างยังเป็นลำน้ำแห่งที่มาของการตั้งเมืองพิบูลมังสาหารในอดีตอีกด้วย
ลักษณะภูมิอากาศอำเภอพิบูลมังสาหาร
ภูมิอากาศ หมายถึง สภาพอากาศโดยเฉลี่ยตามที่ปรากฏอยู่ในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งเป็นระยะเวลานานเป็นปี ๆ
และมีการจดบันทึกเอาไว้ ลักษณะภูมิอากาศ เป็นภูมิอากาศแบบร้อนชื้น มี 3 ฤดู นอกจากนี้ยังได้รับอิทธิพล
ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และพายุดีเปรสชั่น
ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อลักษณะภูมิอากาศของอำเภอพิบูลมังสาหาร
ลักษณะที่ตั้ง
พื้นที่ของอำเภอพิบูลมังสาหารตั้งอยู่ในเขตละติจูดต่ำหรือร้อนซีกโลกเหนือ (ละติจูด 15 องศาเหนือ) ทำให้
ลักษณะเป็นแบบร้อน ฤดูหนาวอากาศเย็น
ระยะห่างจากทะเล
พิบูล มังสาหารเป็นอำเภอที่อยู่ตะวันออกสุดของจังหวัดอีสานตอนใต้จึงเป็นอำเภอที่อยู่ห่างไกลจากทะเลอ่าว
ไทย ประมาณ 650 กิโลเมตร จึงทำให้ได้รับอิทธิพลความชุ่มชื้นจากทะเลน้อย ฤดูร้อนอากาศร้อนและแห้ง
ลมประจำฤดู
ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เกิดจากความกดอากาศสูงในมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก พัดเข้าสู่
หย่อมกดอากาศต่ำตอนกลางทวีปเอเชีย จึงพัดพาเอาความชุ่มชื้นมาให้ แต่อำเภอพิบูลมังสาหารอยู่ค่อนข้างไกล
ทะเลมากจึงทำให้ได้รับอิทธิพลลมนี้ปานกลาง
ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เกิดจากหย่อมความกดอากาศสูงจากประเทศจีนและธิเบตพัดเข้าสู่ภาคเหนือ
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงทำให้บริเวณอำเภอพิบูลมังสาหารและจังหวัดอุบลราชธานีได้รับอากาศเย็น
พายุดีเปรสชั่น พายุนี้มีต้นกำเนิดในทะเลจีนใต้แล้วเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเข้าสู่ประเทศเวียตนาม
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและเข้าสู่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อถึงอำเภอพิบูลมังสาหารความเร็วของลม
จะลดลงทำให้มีฝนตกบริเวณกว้าง
ฤดูกาล
อำเภอพิบูลมังสาหารเป็นบริเวณพื้นที่ที่ได้รับอิทธิพบของลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ จึงทำให้เกิดความแตกต่างของปริมาณน้ำฝนและอุณหภูมิของแต่ละช่วงในรอบปี จึงสามารถแบ่งฤดูกาลออกได้เป็น 3 ฤดูคือ
ฤดูฝน
เริ่มตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม เป็นช่วงระยะเวลาที่ได้รับอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้และบางครั้งจะเกิดพายุดีเปรสชั่นร่วมด้วย ทำให้เกิดมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างและปริมาณน้ำฝนมากกว่าทุกฤดู
ฤดูหนาว
เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นช่วงระยะเวลาที่ได้รับอิทธิพลจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้มีอากาศหนาวเย็นเป็นช่วง ๆ สลับกับอากาศแห้ง
ฤดูร้อน
เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงเวลาที่ได้รับแสงอาทิตย์กล้าที่สุดทำให้มีอากาศร้อนและแห้งแล้ง ในระยะนี้จะมีพายุร้อนเกิดขึ้นด้วย เนื่องจากประเทศจีนเคลื่อนตัวลงมาเป็นครั้งคราว เมื่อปะทะกับอากาศร้อนในท้องถิ่นจึงทำให้เกิดพายุฟ้าคะนองและมีฝนตกแต่ปริมาณน้ำฝนไม่มากนัก
แสดงความคิดเห็น